ประโยชน์ของ กัญชา กับเส้นผม
นอกจากการปลูกผมแล้วเรื่องการบำรุงรักษาเส้นผมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโซเชียลตอนนี้ ก็คือ กัญชา นั่นเองครับ กัญชาสามารถใช้เพื่อบำรุงเส้นผมได้อย่างไร และสามารถนำมาใช้วิธีไหนได้บ้าง
บทความนี้มีคำตอบคะ
ในปัจจุบัน กัญชาถูกนำมาใช้หลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเพื่อกิจกรรมสันทนาการ หรือแม้กระทั่งทางการแพทย์เองก็ตาม แต่รู้ไหมครับว่าจุดประสงค์ในการใช้เปลี่ยนไป ส่วนประกอบของกัญชาที่นำมาใช้ก็เปลี่ยนตามนะครับ โดยหมอขอเล่าก่อนว่า กัญชามีสารออกฤทธิ์สำคัญ 2 ชนิดด้วยกันคือ CBD (Cannabidiol) และ THC (Tetrahydrocannabinol) หลาย ๆ คนคงกำลังสงสัยถึงความแตกต่างกันของเจ้าสาร 2 ตัวนี้ หมอขออธิบายก่อนว่าสารทั้งคู่เป็นสารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ที่พบได้ทั้งในกัญชา และกัญชง โดย CBD นั้นมักจะถูกพูดถึงในวงการแพทย์ที่พบได้เฉพาะในพืชวงศ์กัญชาเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่าง THC และ CBD
สิ่งที่แตกต่างชัดเจนเลยของสารในกัญชาทั้ง 2 ตัวนี้ก็คือสาร THC นั้นสามารถออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้อาจมีอาการเมาหรือที่เรียกกันว่า high ได้นั่นเองครับ ในขณะที่สาร CBD นั้นจะไม่ส่งผลต่อระบบประสาทโดยตรงทำให้ผู้ใช้ไม่เกิดอาการเมา ที่เป็นแบบนี้เพราะสารทั้งสองชนิดนั้นทำงานกับตัวรับแคนนาบินอยด์ในร่างกายแตกต่างกันนั่นเองครับ
ตัวรับแคนนาบินอยด์แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ CB1 และ CB2 โดยตัวรับแคนนาบินอยด์ CB1 พบได้ในระบบประสาทส่วนกลาง ส่วนตัวรับแคนนาบินอยด์ CB2 อยู่ที่ระบบประสาทส่วนปลาย
ซึ่งอาการเมาจากสาร THC ไปจับรับตัวรับแคนนาบินอยด์ CB1 และในขณะที่เอนไซม์ในร่างกายสลาย THC ได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับ CBD อาการเมาจากสาร THC จึงอยู่ได้ค่อนข้างนาน ทำให้ THC มักจะใช้ในกิจกรรมสันทนาการ ส่วนสาร CBD มักจะถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านการแพทย์มากกว่าครับ
ประโยชน์ของสาร THC
จากที่หมอได้ให้ข้อมูลไว้ข้างต้นว่าสาร THC นั้นออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยตรง ทำให้เกิดอาการเมาได้ แต่รู้ไหมครับว่าสารตัวนี้ยังมีประโยชน์ทั้งเชิงการแพทย์และตัวผู้ใช้อีกมากหากมีการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม อาทิเช่น การลดปวด ลดอาการคลื่นไส้ ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ การช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย ส่งเสริมสุขภาวะการนอนหลับ บรรเทาอาการข้างเคียงของการทำเคมีบำบัด บรรเทาอาการภูมิแพ้ เป็นต้น
แต่ถ้าหากผู้ใช้ได้รับสาร THC ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการเมา เคลิ้ม ใจสั่น หรืออาจเห็นภาพหลอนได้เลยนะครับ
ประโยชน์ของสาร CBD
ถึงแม้ว่าสาร CBD จะไม่มีการออกฤทธิ์โดยตรงกับระบบประสาท แต่ในวงการแพทย์นั้นได้ให้ความสนใจในการศึกษาเพื่อใช้สาร CBD เป็นอย่างมาก เพราะสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพของเจ้าสารตัวนี้มีอยู่หลายประการมาก อาทิเช่น บรรเทาอาการซึมเศร้า บรรเทาโรคเบาหวาน บรรเทาอาการจิตเภทต่าง ๆ ลดปัญหาสิวและอาการผิวแห้ง เป็นต้น โดยส่วนใหญ่มักจะถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดเรื้อรัง หรืออาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากจิตใจ แต่เมื่อไม่นานมานี้เอง มีงานวิจัยว่าเราสามารถใช้ CBD ในการพัฒนาเส้นผมให้หนาและแข็งแรงได้ โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสาร CBD ที่ถูกนำมาสกัดเป็นน้ำมันกัญชาแล้ว สามารถใช้เป็นส่วนผสมหลักในแชมพูเพื่อบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดีและแข็งแรงได้ อีกด้วย
ใช้แชมพูสระผมจากน้ำมันกัญชา ต่างจากการทำ Plasma Hair PRP อย่างไร?
นอกจากประโยชน์ของน้ำมันกัญชาที่หมอที่เกริ่นไว้ข้างต้น น้ำมันกัญชายังมีส่วนช่วยป้องกันอาการผมร่วงเป็นบางชนิดอีกด้วย เนื่องจากสาร CBD นั้นช่วยให้เส้นผมดูดซึมกรดไขมัน เช่น Omega-3 , Omega-6 และ Omega-9 ทั้งยังมีวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุและกรดอะมิโน แถมยังสามารถให้ความชุ่มชื้นและต้านอาการอักเสบให้แก่หนังศีรษะได้อีกด้วย
แต่การทำ Plasma Hair PRP คือบำรุงเพื่อกระตุ้นกลไกลการฟื้นฟูตัวเองของร่างกายและช่วงกระตุ้นการซ่อมแซมของรากผม และหนังศีรษะจากภายใน โดยการทำ Plasma Hair PRP คือการรักษาแบบหนึ่งที่จะใช้น้ำเลือดของเราเองหรือที่เรียกว่าพลาสม่า (Plasma) นำไปเข้าเครื่องเหวี่ยงสาร เพื่อให้ได้มาซึ่ง Growth Factor เป็นกลุ่มโปรตีนที่จะทำหน้าที่ไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมตัวเองนั่นเอง ทั้งยังช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ทำให้เส้นผมที่หลุดร่วงง่ายกลับมาแข็งแรงอีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมองหาทางเลือกในการดูแลเส้นผม การใช้แชมพูสระผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชาก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ หรือใครต้องการที่จะบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะจากภายใน ลดการหลุดร่วงของเส้นผมและทำให้เส้นผมแข็งแรง หมอแนะนำเป็น Plasma Hair PRP คะ
ข้อมูลจาก
http://link..
บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ให้บริการตรวจวิเคราะห์ต่างๆ
ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร และ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร
เลือกตรวจวิเคราะห์ออนไลน์กับเราได้ที่
เมนูหลักเลือกตรวจวิเคราะห์
โดย admin 2565/09/30 14:54:29
อ่าน: 273, ความเห็น: 0,
e
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ