ระวัง!ภัยใกล้ตัวจากยาทาเล็บ
โปรดทราบๆ คุณผู้หญิงทั้งหลายอย่าเพิ่งวางใจกับยาทาเล็บที่คุณใช้อยู่ทุกวี่ทุกวันว่าปลอดภัยหายห่วง เพราะของที่คุณใช้อยู่นั้นอาจมีสารอันตราย หรือสีห้ามใช้หรือโลหะหนัก เช่น สารตะกั่ว ปรอทปนเปื้อน เมื่อใช้ทาเล็บมือแล้วไปหยิบจับบริโภคอาหาร อาจสัมผัสกับปากเกิดการดูดซึมปนเปื้อนเข้าไปในร่างกายเป็นอันตราย หรือหากได้รับในปริมาณมากอาจไตวาย รวมทั้งทำลายเนื้อเยื่อสมองได้ และเร็วๆ นี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้เข้าจับกุมยาทาเล็บและผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บปลอมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
รู้แล้วหนาวแทนคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามจังเลย แต่อย่าเพิ่งกังวลใจมากไป เพราะเราเชิญ พญ.ฐิตาภรณ์ วรรณประเสริฐ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากโรงพยาบาลผิวหนังอโศก มาแนะนำเกี่ยวกับยาทาเล็บอย่างคลุมเพื่อความปลอดภัย
ส่วนประกอบในยาทาเล็บ
พญ.ฐิตาภรณ์ กล่าวว่า ยาทาเล็บทั่วไปที่ใช้กันอยู่มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ไนโตรเซลลูโลส (Nitrocellulose) ฟอร์มาลดีไฮด์ เรซินโทลูอีน ไดบิวทิล พทาเลต โดยส่วนผสมในยาทาเล็บที่ควรระวังและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ได้แก่ ไดบิวทิล พทาเลต (Dibutyl Phthalate) เป็นสารที่ใช้ในยาทาเล็บเพื่อให้ทาได้ง่าย เรียบ มีความยืดหยุ่นดี ควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากเป็นสารก่อมะเร็งและทำให้มีความผิดปกติในการคลอดพิการแต่กำเนิด จึงไม่แนะนำให้ใช้ในสตรีที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร (เนื่องจากทำให้มีความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ในเพศชายได้)
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นสารกันเสียที่ใช้ในน้ำยาเคลือบเงาเล็บ ทำให้ยาเคลือบเงาเล็บแข็งและเกาะกับเล็บได้ดีและนาน แต่ฟอร์มาลดีไฮด์ทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสได้ และโทลูอีน (Toluene) เป็นตัวทำละลายที่ผสมในน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อให้ทาได้ง่าย แต่ทำให้เกิดผื่นแพ้ได้และทำให้เกิดอาการบวมแดงเมื่อขยี้ตา การใช้นานๆ ติดต่อกันอาจทำให้เกิดความผิดปกติของการเจริญเติบโต การทำงานของระบบประสาท ระบบอิมมูน และเป็นสารก่อมะเร็ง
ยาล้างเล็บส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบสำคัญ คือ อะซีโตน (Acetone) เป็นตัวทำละลาย ทำให้เวลาเปิดแล้วเราได้กลิ่นฉุนๆ และเมื่อสูดดมติดต่อกันนานๆ จะทำให้เวียนศีรษะและเกิดอาการทางระบบประสาทได้ เมื่อใช้ติดต่อกันนานๆ จะทำให้เล็บเปราะบาง เนื้อเล็บขุ่นและขาดความเงางาม คุณหมอผู้เชี่ยวชาญบอกส่วนประกอบยาทาเล็บที่ผู้ใช้ต้องรู้
การเก็บรักษาและวิธีใช้
คุณหมอแนะนำว่า ยาทาเล็บควรปิดฝาให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการใช้งานและเก็บในที่ๆ ปลอดภัยจากมือเด็ก เวลาก่อนจะใช้ให้นำออกมาวางทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนการใช้น้ำยาเคลือบเงาเล็บแบบใสทาทับยาทาเล็บเพื่อเคลือบให้เล็บเป็นเงา สวยงาม ลดการกร่อนและหักของเล็บ เมื่อทาแล้วต้องทิ้งไว้ให้แห้งนาน 15 นาที เนื่องจากถ้าเล็บยังไม่แห้งแล้วไปถูกผิวหนังส่วนอื่นของร่างกายอาจเกิดการระคายเคืองได้ เมื่อยาทาเล็บแห้งสนิทแล้วมักจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ เพราะส่วนใหญ่จะแพ้สารที่ใช้เคลือบเล็บ ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และหยุดพักการทาเล็บบ้าง
ข้อมูลจาก
http://link..
บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ให้บริการตรวจวิเคราะห์ต่างๆ
ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร และ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร
เลือกตรวจวิเคราะห์ออนไลน์กับเราได้ที่
เมนูหลักเลือกตรวจวิเคราะห์
โดย admin 2565/09/24 15:47:30
อ่าน: 242, ความเห็น: 0,
e
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ