topicidtitlebrandmodelyeardescriptionnameiptopictimetimageแก้ไขลบ
5935 เซ็นทรัลแล็บไทย ชูนโยบายสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร-แปรรูป เพื่อการส่งออก ตรวจยาปฏิชีวนะ ตรวจสารเคมีตกค้าง ตรวจสินค้าจีเอ็มโอ นายนราวิทย์ เปาอินทร์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย กล่าวถึงความสำคัญต่อการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากลว่า สินค้าเกษตรที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศ จำเป็นต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากต้นทาง หรือภาครัฐ ตามรายการที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถส่งออกสินค้าไปสู่ตลาดโลกได้ การรับรองมาตรฐานผู้ประกอบการจำเป็นต้องส่งสินค้าไปตรวจรับรองทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลทั่วโลก

งานบริการของเซ็นทรัลแล็บไทย แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านบริการตรวจวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการ เช่น สารเคมีตกค้าง ยาปฏิชีวนะ เชื้อก่อโรค สินค้าจีเอ็มโอ (GMO) หรือการปนเปื้อนดีเอ็นเอสัตว์ในอาหาร และด้านบริการตรวจรับรองมาตรฐานนอกห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจประเมินและรับรองคุณภาพและผลผลิต การตรวจรับรองด้านพืช การวิเคราะห์คุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม

สำหรับภาคการเกษตร มีการทดสอบหาสารพิษตกค้างของวัตถุอันตรายทางการเกษตร 4 กลุ่ม ประกอบด้วย สารเคมีกำจัดแมลงในกลุ่ม Organocholorine, สารเคมีกำจัดแมลงในกลุ่ม Carbamate, สารเคมีกำจัดศตรูพืชในกลุ่ม Organophosphate และสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในกลุ่ม Pyrethroid ทั้ง 4 กลุ่ม ถือเป็นสารเคมีต้องห้ามที่หลายประเทศไม่ให้มีในสินค้าผักผลไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ เซ็นทรัลแล็บไทยยังให้บริการตรวจวิเคราะห์ด้านคุณภาพ เพื่อพัฒนายกระดับสินค้าเกษตร หรือ ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น ทดสอบคุณค่าทางอาหาร, ตรวจสอบอายุอาหาร เป็นต้น ซึ่งการทดสอบเหล่านี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้ในระดับโลก รวมถึงรายการทดสอบนอกห้องปฏิบัติการ หรือปัจจัยการผลิต อาทิ การทดสอบปุ๋ยและฮอร์โมนพืชต่างๆ ให้ได้ตามมาตรฐานสากล


สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ที่ผลิตสินค้าเกษตรหลายชนิด โดยเฉพาะกลุ่มผลไม้ เช่น ลำไย และลิ้นจี่ ที่มียอดการส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป และอาหาร สร้างรายได้่เข้าสู่ท้องถิ่นกว่าปีละ 500 ล้านบาท

ผู้สนใจสามารถส่งตัวอย่างสินค้าเกษตรเข้าตรวจกับทางแล็บได้ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ สาขาเชียงใหม่ ขอนแก่น สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา สงขลา และกรุงเทพฯ โดยใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 5-7 วัน ก็จะทราบผล สำหรับสินค้าส่งออกจะใช้เวลาดำเนินงาน 48 ชั่วโมง หรือบางรายการอาจใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง

ส่วนราคาค่าตรวจขึ้นอยู่กับตัวอย่างสินค้า เริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น ถ้าสินค้าผ่านมาตรฐาน ทางแล็บจะออกใบรับรองผลการทดสอบเพื่อนำไปใช้การันตีคุณภาพความปลอดภัยของสินค้าได้ หากพบการปนเปื้อนก็จะแจ้งผลให้ผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงคุณภาพสินค้าต่อไป

“การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อสร้างความปลอดภัยของสินค้าไม่ได้มีแค่เจ้าของสินค้าและผู้บริโภคเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์ แต่ช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในขั้นต้นสำหรับผู้ส่งออกสินค้าชนิดนั้นด้วย ที่ผ่านมาทำได้แค่การสุ่มตรวจตามด่านต่างๆ ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ บางครั้งเจอปัญหาสุ่มตรวจไม่ผ่านก็จะเสี่ยงถูกปฏิเสธจากประเทศนำเข้าก่อให้เกิดความเสียหายตามมาได้” กรรมการผู้อำนวยการ กล่าว

เซ็นทรัลแล็บไทย ถือเป็นแล็บที่มีมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รองรับการตรวจทดสอบ 400,000 ตัวอย่าง ต่อปี เพื่อสร้างมาตรฐานให้กับผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภค เซ็นทรัลแล็บไทยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงินอีกหลายแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการขนาดย่อม (SMEs) พัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศ

ที่มา http://link..89330
admin 162.158.178.94 25650912083621 25650912083621 X